เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าของ ECOBLUE

ฟิล์มกรองแสง  ECOBLUE   เป็นนวัตกรรมฟิล์มเซรามิคกันความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูง ผลิตจากชั้นโพลีเอสเตอร์ที่มีความยืดหยุ่น เหนียวและทนทานพร้อมชั้นเคลือบสารโมเลกุลนาโนเซรามิค   ด้วยกรรมวิธี  Multi-Layer Sputtering หรือ  Multi-Layer   Coating      ซึ่งเป็นการเคลือบอนุภาคนาโนเซรามิคชนิดพิเศษหลายชนิดและแร่เงิน มากสูงสุดถึง 9 ชั้น ทำให้ ECOBLUE มีคุณสมบัติ  ลดเฉพาะรังสีความร้อนอินฟาเรดและรังสียูวีในแสงแดดไม่ให้ผ่านชั้นฟิล์ม  (Spectrally Selective Infrared Filtering) แต่ให้แสงสว่างผ่านไปได้มากสูงถึง 70% ให้ทัศวิสัยที่ชัดเจน  ปราศจากเงาสะท้อน  ไม่มีปัญหารบกวนสัญญาณสื่อสาร GPS หรือมือถือต่างๆ  ฟิล์มเซรามิค  ECOBLUE  จึงเป็นสุดยอดเกราะป้องกันความร้อนที่แท้จริง เหมาะสำหรับใช้งานกับกระจกอาคารอยู่อาศัยและรถยนต์ ... เพิ่มเติม


คุณสมบัติเด่นของ ECOBLUE

คุณสมบัติพิเศษหลากหลายที่คุณจะได้พบจากฟิล์มเซรามิคอีโค่บลู 
LkIRR
ฟิล์มเซรามิคอีโค่บลูลดรังสีความร้อน(อินฟาเรด)จากแสงอาทิตย์ได้สูงสุดถึง 98 % ดูเพิ่มเติม...

ฟิล์มเซรามิคอีโค่บลูมีคุณสมบัติลดรังสีความร้อนแบบเฉพาะช่วงคลื่นซึ่งทันสมัยที่สุด ดูเพิ่มเติม...

ฟิล์มเซรามิคอีโค่บลู  ให้แสงสว่างผ่านสูงสุด 70% แสงสะท้อนต่ำ ความชัดเจนสบายตา
ฟิล์มเซรามิคอีโค่บลูลดรังสียูวีทั้งในช่วง UVA, UVB และ UV400 ได้อย่างดีเยียม ดูอันตรายของรังสียูวี
ฟิล์มเซรามิคอีโค่บลูผลิตไม่รบกวนสัญญาณสื่อสาร เช่น  GPS หรือ easypass 
อีโค่บลูหนาถึง 50 ไมครอนและมีชั้นกาวทำหน้าที่ยึดกระจกไว้ไม่ให้ร่วงหล่นเมื่อแตก เพิ่มความปลอดภัย

ทำไมคุณควรใช้ฟิล์ม ECOBLUE

รุ่นฟิล์ม ECOBLUE

ฟิล์มเซรามิค ECOBLUE เป็นนวัตกรรมฟิล์มเซรามิคที่ลดและสะท้อนรังสีอินฟาเรด และป้องกันรังสียูวีได้มากกว่าฟิล์มโลหะทั่วไป ให้คุณเย็นและประหยัดกว่าในการติดตั้งฟิล์มรถยนต์  >> รายละเอียดรุ่นฟิล์ม
maxecb600

MAX-ECB Series

ฟิล์มเซรามิค ECOBLUE  รุ่นพิเศษที่มีจำหน่ายเฉพาะ  "ศูนย์จำหน่ายรถยนต์เท่านั้น" กันความร้อนเหนือกว่าฟิล์มกรองแสงทั่วไป ด้วยการลดรังสีความร้อนจากแสงแดด(อินฟาเรด)สูงสุดกว่า 95% ให้คุณเย็นสบายได้ทันทีที่ขับรถออกจากศูนย์  [ข้อมูลเพิ่มเติม]

maxnev600

MAX-NEV Series

ECOBLUE MAX-NEV ฟิล์มเซรามิครุ่นประหยัดเป็นพิเศษเสำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพการลดความร้อน และรังสียูวีพื่อสุขภาพผิวเหนือฟิล์มทั่วไป ECOBLUE MAX-NEV "ลดอินฟาเรดสูงสุดมากกว่า 90%  พร้อมการปกป้องที่สมบูรณ์แบบจาก UVA  และ UV400" [ข้อมูลเพิ่มเติม] 

maxht600

MAX-HT Series

ฟิล์มเซรามิคนวัตกกรรมใหม่ สำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพการลดความร้อนใหม่ล่าสุด ด้วยเทคโนโลยีที่ผสมผสานระหว่างโมเลกุลโลหะพิเศษกับชั้นนาโนไททาเนียมเซรามิคที่ผ่านการเคลือบด้วยวิธี  Magnetron Sputtering มากถึง 9 ชั้น ทำให้ได้ฟิล์มลดความร้อนสูงแต่คงความใส ทนทาน เหนือกว่าฟิล์มเซรามิคทั่วไป [ข้อมูลเพิ่มเติม]

maxvk

MAX-VK Series

ฟิล์มกรองแสงที่มีเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ด้วยนวัตกรรม"ไฮบริดซิลเวอร์ เคลือบด้วยกรรมวิธี Magnetron Sputtering ทำให้ได้ฟิล์มที่สะท้อนความร้อนอินฟาเรดได้มากถึง 30%" และเงาสะท้อนต่ำ พร้อมการลดค่าอินฟาเรด 97%  เหนือฟิล์มเซรามิครุ่นอื่นๆ หากคุณมองหาฟิล์มที่ดีที่สุด ECOBLUE MAX-VK คือคำตอบ    [ข้อมูลเพิ่มเติม]    

AWARD WINNER

ฟิล์มกรองแสงอีโค่บลูได้รับฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูงสำหรับฟิล์มติดกระจกถึง 13 รุ่น เช่น ฟิล์มเซรามิค ECOBLUE รุ่น MAX-EV, MAX-EC,  MAX-HC ซึ่งต่อมาได้พัฒนาเป็นรุ่น MAX NEV, MAX ECB และ MAX HT ตามลำดับ กระทรวงพลังงานโดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน มอบ “ฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง” นี้  ให้กับผลิตภัณฑ์ฟิล์มอีโค่บลูภายใต้ “โครงการส่งเสริมเครื่องจักรอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงและวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงานโดยการติดฉลาก” เพื่อการลดการใช้พลังงานของประเทศ  และฟิล์มอีโค่บลูได้มีการทดสอบประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์อย่างเข้มงวดก่อนออกวางตลาด ซึ่งรางวัลฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูงนี้ช่วยตอกย้ำและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคในผลิตภัณฑ์ฟิล์ม ECOBLUE ได้อย่างแท้จริง ไม่มีข้อมูลประสิทธิภาพที่เกินจริง หรือได้จากเครื่องมืดวัดที่ไม่ได้มาตรฐาน
energy saving label ecoblue film

FAQ

ในตลาดมีฟิล์มหลากหลายชนิด โดยทั่วไปแบ่งได้คือ

ฟิล์มย้อมสี  ฟิล์มโลหะทั่วไป  และฟิล์มเซรามิคอื่นๆ

ฟิล์มโลหะทั่วไปผลิตจากโลหะเช่น อลูมิเนียม นิกเกิ้ลหรือบรอนซ์ ซึ่งฟิล์มโลหะเหล่านี้สามารถผลิตให้สามารถลดความร้อนสูงได้แต่จะมีเงาสะท้อนสูงและค่อนข้างมืด  รวมทั้งอาจรบกวนสัญญาณสื่อสารได้ด้วย ส่วนฟิล์มเซรามิคไม่มีเงาสะท้อน ความสามารถในการลดความร้อนจะขึ้นกับคุณสมบัติของฟิล์มว่ามีค่าการลดรังสีอินฟาเรดมากน้อยเท่าไหร่ เช่น ลดรังสีอินฟาเรดน้อยกว่า 80% ซึ่งทำให้ผู้ใช้มีความรู้สึกว่ายังลดความร้อนได้น้อย ฟิล์มเซรามิค ECOBLUE จะเป็นฟิล์มที่มีค่าการลดรังสีอินฟาเรดในแต่ละรุ่นมากกว่า 90% เป็นต้นไป เงาสะท้อนต่ำ ไม่มีปัญหาเรื่องรบกวนสัญญาณ (ยกเว้นบางรุ่น) สามารถเลือกความเข้มของฟิล์มได้หลากหลาย เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้จะได้รับความสบายตลอดเวลาในการใช้งาน

ฟิล์มเซรามิคมีหลากหลายประสิทฺธิภาพ ถ้าสว่างเท่ากัน ฟิล์มเซรามิคที่มีค่าการลดรังสีอินฟาเรดมากกว่า จะให้ความรู้สึกที่เย็นกว่า  แต่ไม่สามารถบอกความแตกต่างนี้ได้ด้วยตาเปล่า เบื้องต้นสามารถใช้สเปกโตโฟเตอร์มิเตอร์แบบพกพา วัดค่าการลดรังสีอินฟาเรดที่บางค่า (  900,1400 nm)  ฟิล์มเซรามิค ECOBLUE จะเป็นฟิล์มที่มีค่าการลดรังสีอินฟาเรด มากกว่า 90% ทำให้รู้สึกเย็นทุกขณะการขับขี่ ( ค่าคุณสมบัติอื่นๆ ปรึกษาผู้จำหน่าย )

 

  

รังสีอินฟาเรดเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่งในแสงแดดที่มาจากดวงอาทิตย์ พร้อมๆกับคลื่นแสงสว่าง คลื่นยูวี และคลื่นอืนๆ  รังสีอินฟาเรดในแสงแดดอยู่ระหว่างช่วงคลื่น 750-2500 nm ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ของพลังงานจากแสงแดด ประเด็นสำคัญคือรังสีอินฟาเรดมีผลต่อระบบประสาทรับรุ้ความรู้สึกร้อนของมนุษย์ โดยจากการศึกษาเบื้องต้นพบว่า รังสีอินฟาเรดทำให้โปรตีนที่ทำหน้าที่เปิดปิดการนำกระแสไฟฟ้าไปยังสมองส่วนรับรู้ความรู้สึกร้อนให้ทำงาน ดังนั้นเมื่อฟิล์มเซรามิค ECOBLUE ลดอินฟาเรดได้มากสูงสุดถึง 99% จึงทำให้คนรู้สึกร้อนน้อยลงได้อย่างทันที แสงสว่างในแสงแดดสามารถเปลี่ยนเป็นความร้อนได้เช่นกันแต่ใช้เวลานานกว่า ดังนั้นการใช้ฟิล์มอีโค่บลูจึงให้ทั้งความสบายและความสว่างในการขับขี่ (ดูเพิ่มเติม Solar Radiation ใน internet)

นทางทฤษฎี การศึกษาเรื่องการลดความร้อนจากแสงแดดของวัสดุ จะดูค่า สัมประสิทธิ SHGC solar heat gain coefficient และค่า U-value เป็นหลัก แต่เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจในด้านฟิล์มกรองแสง จึงได้มีการพิจารณา   การลดความร้อนรวม ซึ่งเท่ากับค่า 1-SHGC อย่างไรก็ตามสำหรับฟิล์มเซรามิคที่เน้นในส่วนการลดรังสีอินฟาเรดใช้การระบุว่าฟิล์มสามารถลดรังสีอินฟาเรดได้สูงสุดเพียงใด ซึ่งโดยทั่วไปจะพิจารณาที่ค่าการลดรังสีอินฟาเรดที่ช่วงคลื่น 900 หรือ 1400  nm  ฟิล์มเซรามิคที่ลดค่าอินฟาเรดได้มาก มีแนวโน้มให้ความสบายต่อความรู้สึกได้ดีกว่าฟิล์มที่ลดรังสีอินฟาเรดน้อย เนืองจากเหตุผลทางด้านระบบประสาทรับรู้ความรู้สึก แต่ไม่ได้หมายความว่า  ในแง่ของการประหยัดพลังงานโดยรวม ฟิล์มเซรามิคที่ลดค่าอินฟาเรดได้มากกว่าจะประหยัดพลังงานได้มากกว่า  เนื่องจากมีหลายองค์ประกอบในการพิจารณาการลดความร้อนรวจากแสงแดด ซึ่งหากต้องการค่าที่ถูกต้อง จะต้องทดสอบโดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า เครื่อง Spectrophotometer ในการวัดค่าทางพลังงานต่างๆ  (ดูหัวข้อ Heat Transfer ใน  internet)


ปัจจุบัน การติดตั้งฟิล์มจะเลือกจากค่าความสว่าง  ซึ่งไม่ได้มีมาตรฐานใดกำกับ โดยส่วนใหญ่จะใช้ 1) ค่า % แสงส่องผ่าน 2) ค่าความเข้ม 

1) % ค่าแสงส่องผ่าน เป็นค่า % ช่วงคลื่นแสงสว่างที่ผ่านกระจกติดฟิล์มในช่วง 380-750 nm ที่ผ่านมาได้มากที่สุด  ฟิล์มกรองแสงที่ใช้วัสดุต่างชนิดกัน จะให้ % ค่าแสงส่องผ่านสูงสุดได้เท่ากันแต่อาจจะคนละช่วงคลื่น  เช่น ฟิล์ม A %  แสงผ่านสูงสุด 40% ที่ช่วงคลื่น 650 nm  แต่ฟิล์ม B มี %  แสงผ่านสูงสุด 40%  ที่ช่วงคลื่น 700 nm 



2) ค่าความเข้ม   เพื่อความง่ายและสะดวกในการติดตั้งจะใช้วิธีเรียกแบบความเข้ม เช่น ความเข้ม 40, 60  หรือ 80% ซึ่งเป็นการเลือกโทนหรือความเข้มฟิล์มแบบตร่าวๆเท่านั้น ซึ่งการเรียกความเข้มของฟิล์มติดรถยนต์ไว้ 3 ระดับ คือ 40/60/80 เป็นความเข้าใจผิด และควรเรียกความเข้มของฟิล์มโดยพิจารณาค่าแสงสว่างส่องผ่าน (Visible light transmission )VLT    ระดับความเข้มของฟิล์มที่ระบุ 40/60/80 จะให้ช่วงแสงส่องผ่านในระดับประมาณนี้
ติดฟิล์มรถยนต์เข้ม 40 คือฟิล์มที่ยอมให้แสงส่องผ่าน ( VLT ) ได้ประมาณ 40-50 %
ติดฟิล์มรถยนต์เข้ม 60 คือฟิล์มที่ยอมให้แสงส่องผ่าน ( VLT ) ได้ประมาณ 18-20 %
ติดฟิล์มรถยนต์เข้ม 80 คือฟิล์มที่ยอมให้แสงส่องผ่าน ( VLT ) ได้ประมาณ 5-10 %



ดังนั้นทางบริษัทแนะนำให้เจ้าของรถดูตัวอย่างฟิล์มจริงก่อนติดตั้ง อย่างไรก็ตาม การดูตัวอย่างฟิล์มจริงกับการติดตั้งสามารถให้สีที่แตกต่างกันได้อันเนื่องมาจากผลกระทบจากความสว่างและเฉดสีของฟิล์มส่วนอื่นๆ 

ยังมีความเข้าใจผิด ว่าติดฟิล์มลดอินฟาเรดมากๆดีๆ แล้วต้องไม่ร้อน คำตอบคือไม่จำเป็นเสมอไป

ในความเป็นจริง ฟิล์มทำหน้าที่ลดความร้อนเข้าสู่ตัวรถ และแอร์รถยนต์ทำหน้าที่ทำความเย็น เพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ไม่เปิดแอร์ขับรถคงเหมือนอยู่ในเตาอบแน่นอน ดังนั้นแม้จะใช้ฟิล์มที่ดีที่สุดก็ยังคงร้อนได้ ถ้าแอร์ไม่ดี ปรับแอร์ไม่เหมาะสม  แต่จะรู้สึกร้อนน้อยหรือมาก และระคายเคืองผิวมากน้อยแค่ไหน  เป็นเรื่องของระบบประสาทรับรู้ส่วนบุคคล แต่ละคนรู้สึกร้อนไม่เท่ากัน เช่น คนอ้วนร้อนง่ายกว่าคนผอม คนที่ทำงานต่างกันก็มีความรู้สึกร้อนได้ต่างกัน และรวมไปถึงความร้อนที่เข้าไปในรถยังมีผลมาจากรูปแบบโครงสร้าง มุมองศา วัสดุของรถแต่ละรุ่นด้วย แต่การใช้ฟิล์มเซรามิคที่ลดอินฟาเรดมากกว่า 95% ช่วยให้รู้สึกร้อนน้อยกว่า และเย็นเร็วกว่า  

มีความเป็นไปได้น้อยมาก และต้องระบุว่าค่าความร้อนดังกล่าวคือค่าอะไร ใช้วิธีการวัดค่าอย่างไร ตามมาตรฐานไหน โดยเฉลี่ยฟิล์มที่แสงสะท้อนต่ำกว่า 10% แสงผ่าน 40% ค่าการลดความร้อนรวมสูงสุดประมาณ 50-60% ส่วนแสงสว่างที่ลดลงมีผลต่อการลดความร้อนรวมค่อนข้างน้อย ฟิล์มเซรามิคอีโค่บลูถูกทดสอบด้วยการวัดค่าทางแสงและความร้อนตามมาตรฐาน ISO9050:1990(E) และ ISO 10292:1994(E) ด้วยเครื่องมือ Spectrophotometer Perkin Elmer Lamda 250

ในส่วนของการระบุค่าการลดรังสีอินฟาเรดอย่างง่ายจะเป็นการระบุเฉพาะจุดที่ช่วงคลื่น 900 หรือ 1400  nm แต่สามารถตรวจสอบกราฟสเปกตรัมของฟิล์มแต่ละชนิดได้เพื่อดูว่าฟิล์มสามารถลดอินฟาเรดในแต่ละจุดช่วงคลื่นอินฟาเรดได้มากน้อยเท่าไหร่


ความเข้าใจผิดที่แพร่หลายในการใช้สูตรคำนวณค่าความร้อนที่ฟิล์มลดได้คือ เช่น 

100% -(0.43* %ค่าแสงส่องผ่าน  + 0.54*%ค่าอินฟาเรดส่องผ่าน + 0.3*%ค่ายูวีส่องผ่าน) 

ยกตัวอย่างเช่น  ในเอกสารลงคุณสมบัติฟิล์ม แสงผ่าน 40%  ลดอินฟาเรด 90%(= ผ่าน 10%) ลดยูวี 99%  ค่าการลดความร้อนรวมจะเป็น

0.43x40% (=17.2%) +  0.54*10%(=5.4%) + 0.3*1%(=0.3)  รวมเป็นลดความร้อนได้  100-( 17.2 + 5.4 + 3) =  74.4% 

ในความเป็นจริงฟิล์มสเป๊กนี้จะมีค่าการลดความร้อนประมาณ 50-55% เท่านั้น เกิดความผิดพลาดถึง 20-25%!!!

ซึ่งหากนำฟิล์มสเป๊คนี้ไปติดตั้งใช้จริง จะรู้สึกอุ่นๆ ไม่ได้เย็นอย่างที่ตัวเลขแจ้งไว้ เพราะสมการนี้เป็นคำนวณจากค่าการลดอินฟาเรด หรือแสงสว่างส่องผ่านที่ได้มาจาก เครื่องมือที่ใช้กันทั่วไป เป็นการวัดค่าแค่บางจุด ไม่ใช่ค่าทั้งหมดชองแสงอาทิตย์ จึงเกิดความผิดพลาดอย่างมาก

ดังนั้น ฟิล์มเซรามิคอีโค่บลูที่ถูกทดสอบด้วยเครื่องมือมาตรฐานจึงให้ค่าการลดความร้อนที่ถูกต้องแม่นยำกว่า และนี่คือสาเหตุที่ทำไมค่าการลดความร้อนของอีโค่บลูน้อยกว่าฟิล์มอื่นๆ แต่ให้ความรู้สึกที่เย็นกว่า

"ไม่จริง” เนื่องจากปัจจุบัน ฟิล์มเซรามิคถูกเข้าใจผิดว่า ใช้แล้วจะเย็น จริงๆแล้วแบบไม่เป็นทางการ ฟิล์มเซรามิค วัดกันที่ ค่าการลดความร้อนรังสีอินฟาเรด ซึ่งจะแยกประสิทธิภาพคร่าวๆได้ประมาณนี้

50-70%=พอใช้     70-80% =ปานกลาง     80-90% =ปานกลาง-ดี      95-99% =ดีมาก

การใช้ฟิล์มเซรามิคที่ 95% จะให้ความรู้สึกที่เย็น แตกต่างจากฟิล์มอื่นอย่างชัดเจน  แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าฟิล์มเซรามิคที่ติดตั้งไปเป็นเกรดไหน

ดูรหัสและสามารถวัดฟิล์มได้จากเครื่องมือที่มีอยู่ทีศุนย์ติดตั้งได้ทันที

ฟิล์มเซรามิคอีโค่บลูรุ่น MAX VK ถูกเคลือบด้วยชั้นเงินและเซรามิคกว่า 9 ชั้นซึ่งทำให้มีคุณสมบัติพิเศษเหนือกว่าฟิล์มเซรามิคอื่นๆนั่นคือ สามารถสะท้อนรังสีอินฟาเรด โดยที่ไม่สะท้อนแสงสว่าง อมความร้อนน้อย ลดความร้อนได้มากกว่าฟิล์มเซรามิคเทคโนโลยีอื่นๆที่ความสว่างใกล้เคียงกัน 

ด้วยคุณสมบัติพิเศษของฟิล์มเซรามิคอีโค่บลูรุ่น MAX VK ทำให้เกิดการรบกวนของสัญญาณสื่อสารของอุปกรณ์ชนิดต่างๆ รวมไปถึง การติดตั้งอาจเกิดคลื่นๆ หรือรอย"ฝ้าขาว" ในบางจุด เป็นผลเนื่องมาจากการใช้ความร้อนในการขึ้นรูปฟิล์มสำหรับรถยนต์ในบางรุ่นที่กระจกมีความโค้งมาก ซึ่งทางบริษัทถือว่าเป็นความปรกติในการติดตั้งและสงวนสิทธิในการเปลี่ยนฟิล์มให้ใหม่่จากเหตุดังกล่าว

ผลงานติดตั้ง

สนใจฟิล์ม ECOBLUE ?

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมฟิล์มกรองแสง ECOBLUE หรือสินค้าอื่นๆ และโปรโมชั่นต่างๆ กรุณากรอกข้อมูลเพื่อติดต่อบริษัท ทางเจ้าหน้าที่จะติดต่อท่านกลับไปในไม่ช้า หรือคุณสามารถเพิ่มเพิ่อนเราได้ที่ LINEID: @atsyscompany
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้