6 เหตุผลทำไมควรใช้กระจก LAMKOOL

What is LAMKOOL?

image
นวัตกรรมกระจกนิรภัยชนิดใหม่ให้ทั้งความปลอดภัยจากการบุกรุกโจรกรรมและลดความร้อนในแผ่นเดียวกัน ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีกระจกนิรภัยและนาโนเซรามิกลดความร้อนเข้าด้วยกัน ทำให้ได้กระจกพิเศษที่แข็งแรงปลอดภัย สามารถลดอันตรายจากอุบัติเหตหรือการบุกรุกโจรกรรมได้ดี และช่วยลดความร้อนจากดวงอาทิตย์ที่จะเข้าสู่ตัวอาคารได้ดีกว่ากระจกชนิดอื่นๆ เหมาะสำหรับใช้เป็นกระจกหน้าต่างสำหรับ บ้านพักอาศัย สำนักงาน ร้านค้าต่างๆ

เทคโนโลยีล้ำหน้าของ LAMKOOL

Lamkool เป็นกระจกหลายชั้นที่ถูกยึดติดกันด้วยชั้นนาโนเซรามิกโพลีเมอร์จากกรรมวิธีอบรีดร้อน ภายใต้ภาวะอุณหภูมิและความความดันสูง โดยนาโนเซรามิกโพลีเมอร์ที่มีคุณสมบัติที่เหนียว และแข็งแรงทนทานต่อแรงกระแทกจากภายนอกได้สูง โดยแม้กระจกจะแตกร้าวแต่เศษกระจกยังยึดติดกันด้วยเยื่อโพลีเมอร์ ทำให้สามารถรองรับแรงกระแทกซ้ำได้หลายครั้ง นอกจากนี้นาโนเซรามิกยังสามารถดูดซับเฉพาะคลื่นรังสีความร้อนอินฟาเรดในแสงอาทิตย์ (Spectrally Selective Technology) ได้ดี แต่ให้แสงสว่างส่องผ่านได้ดี ทำให้กระจก Lamkool ให้ทั้งความปลอดภัยและประหยัดพลังงานอย่างแท้จริง ดูวิดีโอสาธิตการผลิต LAMKOOL ได้ที่นี่

กระจกนิรภัย LAMKOOL มีชั้นโพลีเมอร์นาโนเซรามิกอนินทรีย์ที่มีคุณสมบัติกรองลดเฉพาะรังสีความร้อนอินฟาเรดและรังสียูวีในแสงแดดสูงสุดถึง 99% (Spectrally Selective IR filtering) ที่ช่วงคลื่น 270-380 และ 780-2500 นาโนเมตร  ซึ่งเป็นช่วงรังสีอินฟาเรดที่มีผลต่อประสาทการรับรู้ความร้อนที่ผิวหนังของคน ดังนั้นกระจกนิรภัย LAMKOOL จึงให้ความรู้สึกที่เย็นสบายกว่ากระจกชนิดอื่นอย่างชัดเจน เพิ่มเติม >>
lamkool structure

คุณสมบัติพิเศษของกระจก LAMKOOL

image

ลดรังสีความร้อนอินฟาเรดได้สูงสุดถึง 99%

LAMKOOL มีชั้นนาโนเซรามิกโพลีเมอร์ที่ลดรังสีความร้อนอินฟาเรดในแสงแดดสูงสุดถึง 99% ซึ่งเป็นช่วงรังสีอินฟาเรดที่มีผลต่อประสาทการรับรู้ความร้อนที่ผิวหนังของคน ดังนั้นกระจก LAMKOOL จึงให้ความรู้สึกที่เย็นสบายกว่ากระจกอื่นอย่างชัดเจน  ดูเพิ่มเติม..

image
ลดรังสียูวีได้สูงสุด 99%

LAMKOOL มีสารดูดซับรังสียูวีที่มีคุณสมบัติการในแสงแดดที่ช่วงคลื่น 270-380 นาโนเมตร ซึ่งเป็นช่วงรังสียูวีที่มีผลต่อ การเสื่อมสภาพของผิว ผิวไหม้ ผิวแก่ก่อนวัย รวมถึงมะเร็งผิวหนัง ดังนั้น LAMKOOL ให้การป้องกันและดูแลผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพชัดเจน
image
แข็งแรง  ทนทานต่อแรงกระแทก
ด้วยโครงสร้างแบบกระจกนิรภัยหลายชั้น (Laminated Glass) Lamkool สามารถต้านทานแรงกระแทกได้สูงโดยไม่ทะลุฉีกขาดหรือหลุดร่วง ช่วยยึดกระจกที่แตกไม่ให้ร่วงหล่นเป็นอันตราย สามารถเพิ่มความปลอดภัยได้หลายระดับจนถึงระดับต้านทานอาวุธรร้ายแรง 
image
ใส สว่าง ไร้เงาสะท้อน
LAMKOOL มีความใสสว่าง เงาสะท้อนต่ำ ให้แสงส่องผ่านได้ถึง 70% ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในอาคาร ให้ความสวยงามทันสมัย
image
นวัตกรรมเทคโนโลยีกรองคลื่นความร้อน
LAMKOOL เป็นกระจกที่เลือกลดเฉพาะคลื่นความร้อนและยูวีในแสงแดดที่ช่วงคลื่น 380-2500 นาโนเมตรได้ (Spectrally Selective IR filtering) แต่ให้แสงสว่างสามารถผ่านกระจกได้ดี ซึ่งเทคโนโลยีนี้เป็นเทคโนโลยีกระจกประหยัดพลังงานที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ดูเพิ่มเติม..
image
ลดเสียงรบกวน
ชั้นโพลีเมอร์ของ LAMKOOL มีความเหนียวและยืดหยุ่นเป็นพิเศษ มีคุณสมบัติดูดซับพลังงาน ทำให้คลื่นเสียงเดินทางผ่านได้ยาก เมื่อประสานคู่กับชั้นโครงสร้างกระจกส่งผลให้ช่วยลดการส่งผ่านพลังงานเสียงได้กว่า 50% เมื่อเทียบกับกระจกธรรมดาที่ความหนาเท่ากัน

ข้อมูลด้านเทคนิก

image
 
 
ตารางเปรียบเทียบค่าความร้อนผ่านกระจกชนิดต่างๆ
image
ข้อมูลด้านเทคนิก

การใช้งาน


image

ผนังกระจกอาคาร
ประตู หน้าต่าง

image
 
หลังคากระจก
 
MORE DETAIL
image

เรือนกระจก
MORE DETAIL

ผลงาน

รางวัล

image
กระจก LAMKOOL ได้รับรางวัลฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูงจากกระทรวงพลังงานโดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ภายใต้ “โครงการส่งเสริมเครื่องจักรอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงและวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงานโดยการติดฉลาก” เพื่อการลดการใช้พลังงานของประเทศ ช่วยตอกย้ำและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคในผลิตภัณฑ์กระจก LAMKOOL 

FAQ

การลดความร้อน กระจก LAMKOOL เปรียบเทียบกัย กระจก LOW E และ IG/Low E

การเปรียบเทียบในที่นี้ จะเปรียบกับ กระจก LOW-E ชนืด Hardcoat - Low-E บนกระจกใส หนา 3 มม เท่านั้น

 

โดยการเปรียบเทียบ จะมี  3 ส่วน คือ 1. การลดความร้อนจากแสงแดด 2. ความร้อนจากอากาศร้อนผ่านเนื้อกระจก และ 3. การลดความร้อนโดยรวม

จากตารางค่าประสิทธิภาพของกระจกชนิดต่างๆ 

ค่า SHGC , ค่า U % และความร้อนผ่านกระจกที่คำนวณได้จากการจำลอง   ของกระจกทั้ง 3 ชนิด มีดังนี้

LAMKOOL(LKF360): SHGC = 0.46, 5.6, 104

Low-E:  SHGC = 0.71,4.3, 138

IG Low-E (6+air6+6): SHGC = 0.66, 2.5, 121

 

1. หากดูการลดความร้อนผ่านแสงแดดอย่างเดียว ( SHGC)

LAMKOOL ดีกว่า IG-Low-E ดีกว่า  Low-E

2. หากดูการลดความร้อนจากความร้อนส่งผ่านชั้นกระจกอย่างเดียว ( U value ) เช่น อากาศร้อนนอกอาคารซึมผ่านเนื้อกระจกเข้าไปในอาคารแม้ว่าจะไม่มีแสงแดด

IG Low-E ดีกว่า Low-E ดีกว่า Lamkool

 

3. ดูการลดความร้อนรวมทั้ง 2 อย่าง ( U-lavue + SHGC) จะพบว่า

LAMKOOL ดีกว่า IG-Low-E ดีกว่า  Low-E           

LAMKOOL  ดีกว่า  IG Low-E  15%

LAMKOOL  ดีกว่า  Low-E   25%


เนื่องจาก อัตราส่วนความร้อนจาก  U-value หรือความร้อนที่ส่งผ่านชั้นกระจก มีเพียง 15-20%. ซึ่งน้อยกว่าความร้อนที่ผ่านมากับแสงแดดที่มีสัดส่วนถึง 70-80% ของความร้อนที่ผ่านเข้าอาคารในเวลากลางวัน

 

นั่นคือสาเหตุทำไมจึงควรใช้ กระจก LAMKOOL เป็นผนังอาคารเพื่อการลดความร้อนจากแสงแดด

 

 

 

 

กระจก LAMKOOl ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้สำหรับอาคาร ไม่ว่าจะเป็นอาคารที่พักอาศัยทั่วไป อาคารประหยัดพลังงาน หรืออาคารเขียวโดยเฉพาะ โดยประสิทธิภาพการลดความร้อความร้อนของกระจก  LAMKOOL สามารถปรับแต่งไปตามความต้องการของผู้ออกแบบ และความเหมาะสมกับความจำเป็นของอาคารนั้นๆ 

เช่นสำหรับอาคารสูง กระจก LAMKOOL สามารถออกแบบให้มีค่า SHGC ต่ำกว่า 0.3 ได้ในขณะที่ยังให้ความสว่างมากถึง 50% โดยเงาสะท้อนตำกว่า 20%

เมื่อออกแบบหรือขณะสร้างอาคาร เจ้าของอาคารอาจมองไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องการคุณสมบัติการลดความร้อน แต่กว่า 70% เจ้าของอาคารจะประสบกับปัญหาความร้อนจากแสงแดดในภายหลัง และจำเป็นต้องติดตั้งฟิล์มกรองแสงเพิ่มเติม ซึ่งฟิล์มคุณภาพดีมีราคาสูง

ประสิทธิภาพการลดความร้อนของกระจก LAMKOOL นั้นเทียบเท่าได้กับประสิทธิภาพของฟิล์มกรองแสงเซรามิคเกรดพรีเมี่ยมที่ลดรังสีความร้อนในแสงแดดได้ 96% ขึ้นไป  

ดังนั้นทางบริษัทจึงแนะนำให้ลูกค้าที่สร้างอาคารใช้กระจกชนิดนี้หากลักษณะอาคารมีผลกระทบจากแสงแดด เนื่องจากการใช้กระจกตั้งแต่ก่อสร้างจะสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าการติดตั้งฟิล์มเซรามิคเกรดพรีเมี่ยมในภายหลัง 

รวมไปถึงอายุการใช้งาน การดูแลรักษาของกระจกที่ทนทานและยาวนานกว่าฟิล์ม

ประสิทธิภาพการลดความร้อนของกระจก LAMKOOL นั้นเทียบเท่าได้กับประสิทธิภาพของฟิล์มกรองแสงเซรามิคเกรดพรีเมี่ยมที่ลดรังสีความร้อนในแสงแดดได้ 96% ขึ้นไป  

ดังนั้นทางบริษัทจึงแนะนำให้ลูกค้าที่สร้างอาคารใช้กระจกชนิดนี้หากลักษณะอาคารมีผลกระทบจากแสงแดด เนื่องจากการใช้กระจกตั้งแต่ก่อสร้างจะสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าการติดตั้งฟิล์มเซรามิคเกรดพรีเมี่ยมในภายหลัง  รวมไปถึงอายุการใช้งานของกระจกที่ยาวนานกว่าฟิล์มกรองแสง เพราะกระจกมีอายุการใช้งาน 20-30 ปีในขณะที่ฟิล์มมีอายุการใช้งาน 5-7 ปี

หากต้องการทราบราคาโดยประมาณสามารถทำได้โดยวัดขนาดกระจกแต่ละบาน ในแต่ละชุด และจำนวน  เช่น กระจกบานเลื่อน 1 ชุด มีบานเลื่อนกลาง 2 บาน และบานติดตาย 2 บาน วัดขนาดบานเลื่อนกลาง ได้ 50x100 = 2 บาน  ขนาดบานติดตายได้ 50x110 =1 บาน และ 45x108=1 บาน หรือส่งแบบขยายประตูหน้าต่างตามตัวอย่างรูปด้านบน มาที่ 

ส่งรายละเอียดมาที่ email: atsyscompany@gmail.com 

พร้อม ชื่อ และเบอร์ติดต่อกลับ เมื่อทางบริษัทเมื่อได้รับข้อมูลจะติดต่อท่านกลับไป หากท่านไม่ให้เบอร์ติดต่อกลับ ท่านอาจจะไม่ได้รับอีเมล์เนื่องจากอีเมล์ของบริษัทอาจจะถูกส่งเข้าไปใน junk mail ของท่าน

สนใจกระจก LAMKOOL ?

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมกระจก LAMKOOL หรือสินค้าอื่นๆ และโปรโมชั่นต่างๆ กรุณากรอกข้อมูลเพื่อติดต่อบริษัท ทางเจ้าหน้าที่จะติดต่อท่านกลับไปในไม่ช้า หรือคุณสามารถเพิ่มเพิ่อนเราได้ที่ LINEID: @atsyscompany
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้